เอลเลน มาราจนิค ดีไซเนอร์ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายให้กับภาพยนตร์เรื่อง มาเลฟิเซนต์: นางพญาปีศาจ
โดย Candice Chua
เธอจะมาเล่าถึงตัวละครโปรด พร้อมเผยเบื้องหลังการทำงานร่วมกับแองเจลีน่า โจลี
ขุ่นแม่มาลีกลับมาพร้อมกับมหาสงคราม และแน่นอน เครื่องแต่งการสุดเว่อร์วังใน มาเลฟิเซนต์: นางพญาปีศาจ เราจะพาคุณมาพบกับ เอลเลน มาราจนิค นักออกแบบเครื่องแต่งกายเจ้าของรางวัลเอมมี่อวอร์ด พร้อมเปิดเผยเบื้องหลังการออกแบบเครื่องแต่งกายให้กับมาเลฟิเซนต์ (แองเจลีน่า โจลี) ออโรร่า (เอลล์ แฟนนิ่ง) และราชินีอิงกริธ (มิเชลล์ ไฟเฟอร์)
อะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจมาร่วมงานในภาพยนตร์เรื่อง มาเลฟิเซนต์: นางพญาปีศาจ
ฉันชอบเรื่องราวของมาเลฟิเซนต์ และเรื่องราวของต้นฉบับอย่างเจ้าหญิงนิทรา ฉันเลยรู้สึกว่ามันคงจะน่าตื่นเต้นไม่น้อยถ้าได้ร่วมงานนี้ แล้วนี่ก็เป็นเวลา 5 ปีแล้วจากภาคแรก อยากรู้เลยว่าภาคต่อนี้จะเป็นอย่างไร
ภาพลักษณ์ของมาเลฟิเซนต์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างจากภาคก่อนนี้ แล้วมันเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของเธออย่างไร
หลัก ๆ เลยก็ปีกของเธอที่กลับมาเหมือนเดิมแล้ว แล้วนั่นแหละคือลุคอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ ปีกจะทำให้เธอต่อกรกับศัตรูได้ ส่วนการออกแบบชุดของมาเลฟิเซนต์ที่มีปีกก็ต้องดูพริ้วไหว เธอจะไม่ใส่ชุดหนังหรือกำมะหยี่เนื่องจากมันดูแข็งทื่อ เพราะฉะนั้นชุดไม่ควรจะดูมีน้ำหนัก แต่ต้องเบาและโปร่งสบาย
การได้ทำงานใกล้ชิดกับแองเจลีน่า โจลี มีส่วนช่วยในการออกแบบชุดของมาเลฟิเซนต์อย่างไร
แองเจลีน่ารู้จักตัวละครตัวนี้ดี เธอรู้ว่าตัวละครนี้เป็นใคร จะทำอะไร จะไปที่ไหน และที่สำคัญ เธอมีความเข้าใจเรื่องของดีไซน์ ซึ่งทำให้เธอสามารถให้คำแนะนำต่าง ๆ เวลาทำงานได้ว่าเธอเห็นอะไรในรายละเอียดบ้าง ทำให้การทำงานของพวกเราง่ายมากสำหรับภาคต่อของมาเลฟิเซนต์
แล้วชุดสีดำที่มาเลฟิเซนต์สวมตอนฉากมหาสงคราม มีที่มาอย่างไร
นั่นคือแบทเทิลยูนิฟอร์ม มันมาจากตัวตนของเธอและสิ่งที่เธอผ่านมา เธออาศัยอยู่ในป่า เป็นเผ่าพันธุ์เฟย์ที่มีปีกและเขา ตัวละครดาร์กเฟย์มีที่มาจากชนเผ่าในหลายพื้นที่ ซึ่งพวกเขาต่อสู้ด้วยตัวเปล่า ไม่สวมชุดเกราะ นั่นแหละแรงบันดาลใจสำหรับแบทเทิลยูนิฟอร์ม เราอยากให้การออกแบบชุดนี้บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของเธอและที่มาของเธอให้มากที่สุด
ช่วยเล่าถึงลุคของออโรร่าให้พวกเราฟังหน่อย
ออโรร่าเป็นราชินีคนใหม่ของอาณาจักรมัวส์ เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้เธอออกมาดูโตขึ้น สดใสขึ้น มีกลิ่นอายของเทพนิยาย บนชุดจะมีการถักทอด้านสีฟ้า (ออโรร่าบลู) ออกมาเป็นรูปใบไม้และดอกไม้ สำหรับชุดสีชมพูที่ใส่ไปงานเลี้ยงดินเนอร์ที่ปราสาทของเจ้าชายฟิลิปได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่อง เจ้าหญิงนิทรา บริเวณคอเสื้อจะเหมือนเดิม ส่วนสีชมพูก็บ่งบอกถึงออโรร่าในเวอร์ชันการ์ตูน และเราใช้ผ้าโปร่งและผักถักลายดอกไม้มาคลุมทับอีกชั้น
สำหรับฉากที่เธอต้องอยู่กับราชินีอิงกริธ ชุดก็จะดูคลาสสิคมากขึ้น มีรูปมีร่างมากขึ้น เพราะฉะนั้นมันจะดูแปลกดูเล่นเกินไปไม่ได้ ชุดนี้จะดูเป็นทางการ ใช้ผ้าทอเยอะขึ้น มีการเล่นกับมิติในส่วนของโครงร่างของชุด และใช้สีทองเป็นส่วนประกอบ เวลามองที่ชุดนี้จะรู้สึกได้ว่ามันถูกถักทอและตัดเย็บโดยช่างที่ฝีมือดีที่สุดในอาณาจักร สุดท้ายกับชุดแต่งงานที่บ่งบอกถึงความเป็นออโรร่าได้ดีที่สุด ชุดนี้จะมีสีที่ต่างกันถึง 6 สี ผ้าชีฟอง 6 ชั้น และตกแต่งด้วยดอกไม้ทำมือทั้งชุด
แล้วของราชินีอิงกริธล่ะ
ราชินีอิงกริธงั้นเหรอ สมบัติ อำนาจ ความโลภ (หัวเราะ) ทุกชุดที่ราชินีใส่จะมีส่วนประกอบของหินและด้ายสีทอง ถักทอกออกมาสวยงามมาก มีเพชรนิลจินดา ดูหรูหรา การดีไซน์ชุดสำหรับราชินีต้องทำให้เธอดูมั่งคั่งแต่ไม่แสดงออกถึงความชั่วร้าย เราจึงเลือกสีที่ไม่ทึบหรือดูมีน้ำหนัก แต่ใช้เครื่องประดับเพชรพลอยในการบ่งบอกตัวตนของเธอ ตอนเราเห็นเธอ เธอสวมชุดที่ใช้ผ้าเบาๆ แต่สวมสร้อยคอที่งดงามอลังการไปด้วยเพชรและมุก ลุคของเธอต้องออกมาดูเป็นมิตรดั่งเช่นราชินีทั่วไปที่คุณจินตนาการถึง คุณไม่สามารถตัดสินหนังสือจากเพียงแค่ปกได้ (หัวเราะ)
เรามีคำถามยากสำหรับคุณ ถ้าต้องเลือกลุคที่คุณชอบที่สุดจากภาพยนตร์เรื่องนี้ จะเลือกอะไร
โอ้โห ถามกันแบบนี้เลยเหรอ (หัวเราะ) ถ้าต้องเลือก ฉันขอเลือกชุดที่มาเลฟิเซนต์และราชินีอิงกริธใส่ตอนทำฉากสงคราม และชุดแต่งงานของออโรร่า
โอ้ใช่ ราชินีอิงกริธกับชุดในฉากทำสงครามดูอลังการมาก
มันดูดีแบบหาที่ติไม่ได้เลย เป็นตัวตนที่แท้จริงของราชินีอิงกริธ ถ้าคุณดูที่ราชินีอิงกริธและมาเลฟิเซนต์มีลุคอย่างไรในฉากต่อสู้ คุณจะรู้ได้ชัดเลยว่าพวกเธอคือใคร
มันมีความต่างมันชัดเจนมาก
แน่นอน เหมือนอยู่กันคนละฝั่งเลย บ่งบอกชัดเจนเลยว่าพวกเธอเป็นใคร และ “จะ” เป็นอย่างไรตลอดเรื่องราวของ มาเลฟิเซนต์: นางพญาปีศาจ ที่เราได้ชมกัน มันคือสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความสัมพันธ์บางอย่างของสองตัวละครนี้
คำถามสุดท้ายแล้ว ทำไมทุกคนควรดู มาเลฟิเซนต์: นางพญาปีศาจ
ถ้าคุณไม่ดู ก็เท่ากับว่าคุณพลาดภาพยนตร์ที่ดีที่สุด สนุกที่สุดเรื่องนึงเลยในชีวิตนี้!
Go beyond the fairytale. Disney’s Maleficent: Mistress of Evil is in cinemas 17 October.
มหาสงครามครั้งสุดท้ายเริ่มขึ้นแล้ว Disney’s Maleficent: Mistress of Evil มาเลฟิเซนต์: นางพญาปีศาจ วันนี้ในโรงภาพยนตร์ เช็กรอบหนังและซื้อตั๋วได้
ที่นี่.
บทสัมภาษณ์นี้มีการปรับเปลี่ยนและเรียบเรียงขึ้นใหม่เพื่อความเข้าใจง่าย